[รีวิว] Super Mario Party Jamboree + Jamboree TV รวมฮิตเกมเฮฮาปาร์ตี้ฉบับอัปเกรด บน Nintendo Switch 2
เป็นที่รู้กันว่าหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมบนคอนโซล Nintendo คือเกมแนวเฮฮาปาร์ตี้ ที่เล่นกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเกม Mario Party ที่ออกวางขายมายาวนาน และล่าสุดปู่นินเพิ่งปัดฝุ่นนำ Super Mario Party Jamboree มาขายใหม่บน Nintendo Switch 2

โดยเกม Super Mario Party Jamboree + Jamboree TV เป็นเกมปาร์ตี้ภาคใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Mario Party ที่พัฒนาโดย Nintendo ส่วน “Jamboree TV” คือส่วนเสริมที่มาพร้อมกับเกมเวอร์ชันสำหรับ Nintendo Switch 2 (หรือสามารถซื้อแพ็คอัปเกรดสำหรับผู้ที่ซื้อ Super Mario Party Jamboree เวอร์ชันปกติไปแล้ว)ส่วนจุดเด่นของเกม Super Mario Party Jamboree ที่นับเป็นซีรีส์ Mario Party ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะว่ามีกระดานเกมถึง 7 กระดาน (เป็นกระดานใหม่ 5 กระดาน และนำกระดานคลาสสิกจากภาคก่อนหน้า 2 กระดานมาปรับปรุง) และมีมินิเกมมากกว่า 110 เกม

ส่วนในด้านตัวละครก็ไม่น้อยหน้าเพราะ Super Mario Party Jamboree มีตัวละครให้เลือกเล่นมากที่สุดในซีรีส์ รวมถึงตัวละครใหม่อย่าง Ninji และ Paulineและยังมาพร้อมกับโหมดเกมหลากหลาย นอกจากโหมด Mario Party แบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีโหมดอื่นๆ เช่น “Party Planning Trek” (โหมดเนื้อเรื่องสำหรับผู้เล่นคนเดียว), “Koopathlon” (โหมดออนไลน์ที่ผู้เล่น 20 คนแข่งมินิเกมต่อเนื่อง), และ “Bowser Kaboom Squad” (โหมดออนไลน์แบบร่วมมือกัน 8 ผู้เล่น)

นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมด Jamboree Buddies ที่มาพร้อมกับระบบพันธมิตรที่กลับมาอีกครั้ง โดยมีตัวละคร NPC ปรากฏบนกระดานและมอบข้อได้เปรียบต่างๆ ให้เมื่อผู้เล่นได้มาเป็นพันธมิตรกันเป็นทีม และยังมีการออกกฎพิเศษนามPro Ruleกฎพิเศษที่ลดองค์ประกอบของโชคลง และเพิ่มกลยุทธ์มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทาย

และสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นภาคหลักบน Nintendo Switch 1 มาก่อนภาค Super Mario Party Jamboree จะมีกติกาใหม่ในโหมดการเล่นแบบ Party ซึ่งก็คอFrenzy Rules:** กฎที่ทำให้เกมสั้นลงและเร็วขึ้น โดยเริ่มเกมเหมือนอยู่ช่วงท้ายเกม (เช่น มีเพียง 5 ตา) และมีอีเวนต์พิเศษเกิดขึ้นบ่อยขึ้นและมีโหมด Tag-Team Rules ที่เป็นการแข่งขันแบบ 2v2 ที่ผู้เล่นในทีมจะใช้ดาว, เหรียญ และไอเทมร่วมกัน

พรีวิวแนะนำ Super Mario Party Jamboree + Jamboree TV (ส่วนเสริมสำหรับ Nintendo Switch 2)
เกมเพลย์ในส่วนของ Jamboree TV ถูกนำเสนอในรูปแบบรายการทีวีโชว์ที่ผู้เล่นเป็นผู้เข้าแข่งขัน เป็นการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติใหม่ของเครื่องเกมรุ่นใหม่อย่าง Nintendo Switch 2 อย่างเต็มที่ รวมถึงภาพสวยขึ้น รองรับความละเอียด 1440p ในโหมดทีวี และ Full HD (1080p) ในโหมดพกพา

นอกจากนี้ Super Mario Party Jamboree + Jamboree TV ยังมาพร้อมกับ มินิเกมใหม่ ที่มีการเพิ่มมินิเกมใหม่ประมาณ 20 เกม ที่ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของ Joy-Con 2 เช่นการใช้ลูกเล่น Mouse Controls มินิเกมที่ใช้ Joy-Con 2 เป็นเมาส์ในการควบคุม เช่น การเล่นฮอกกี้อากาศ, การเรียงโดมิโน, หรือการตักไอศกรีม โดยใช้เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวของ Joy-con 2 และยังมีการใช้ลูกเล่น Microphone-based gamesมินิเกมที่ใช้ไมโครโฟนในเครื่อง เช่น การปรบมือตามจังหวะ หรือการตะโกนเพื่อเล่นมินิเกมตามจังหวะที่กำหนดไว้ซึ่งสนุกและแปลกใหม่

และจุดขายของภาคนี้คือมินิเกม Camera-based games ที่เป็น มินิเกมที่ใช้กล้องของ Nintendo Switch 2 ซึ่งช่วยให้เห็นใบหน้าของผู้เล่นบนหน้าจอระหว่างการเล่น (เช่น โหมด Bowser Live) ซึ่งเป็นโหมดเกมใหม่ใน Jamboree TV โดย Bowser Live โหมดที่ใช้กล้องของ Switch 2 เป็นหลัก ให้ผู้เล่นได้ทำท่าทางต่างๆ เพื่อเล่นมินิเกม โดยจะสามารถจับภาพผู้เล่นได้ในมุมกว้างถึง 4 คนเพื่อนำมาเล่นมินิเกม นอกจากนี้ยังมีโหมด Carnival Coaster ที่นับเป็นโหมด Co-op แบบ On-rails ที่ผู้เล่นต้องร่วมมือกันยิงศัตรูในขณะนั่งรถไฟเหาะ และมีการสลับไปเล่นมินิเกมที่ใช้เมาส์ที่ทั้งสนุกและแปลกใหม่ที่ไม่มเคมีมาก่อน

สรุปโดยรวมแล้วการกลับมาอีกครั้งในเกม Super Mario Party Jamboree + Jamboree TV เป็นเกมปาร์ตี้ที่อัปเกรดและขยายเนื้อหาจาก Super Mario Party Jamboree เวอร์ชันดั้งเดิม เพื่อนำเสนอประสบการณ์การเล่นที่ใหญ่ขึ้น สนุกขึ้น และใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติใหม่ๆ ของเครื่อง Nintendo Switch 2 ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของ Jamboree TV ที่เพิ่มมินิเกมและโหมดใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเข้ามา และหากคุณมีเวอร์ชัน Nintendo Switch 1 อยู่สามารถกดอัปเกรดได้ด้วย (เสียเงินเพิ่มเล็กน้อย) แต่ก็ต้องซื้อกล้องของ Nintendo Switch 2 ได้ด้วย

ประวัติ Mario Party
ส่วนหากคุณยังไม่รู้มาทำความรู้จักกับประวัติของเกม Super Mario Party โดยเกมเกมซีรีส์ Mario Party เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเกมปาร์ตี้ที่สนุกสนานและมักจะสร้างความวุ่นวายเฮฮาระหว่างผู้เล่น โดยผสมผสานองค์ประกอบของเกมกระดานเข้ากับมินิเกมที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เกมนี้เป็นที่นิยมสำหรับทุกเพศทุกวัย

จุดเริ่มต้นเกม Mario Party ภาคแรก วางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง Nintendo 64 ในวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 1998 (ในประเทศญี่ปุ่น) พัฒนาโดย Hudson Soft (ภายหลัง Nintendo ให้ทีมอื่นทำแล้ว เพราะค่ายปิดตัวไป) แนวคิดเริ่มต้นของเกมคือการสร้างเกมสำหรับ 4 ผู้เล่น โดยใช้ประโยชน์จากพอร์ตคอนโทรลเลอร์ 4 พอร์ตของ Nintendo 64 ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในยุคนั้น ส่วนจุดเด่นของซีรีส์เกมเพลย์หลัก ๆ จะมาในรูปแบบเกมกระดานโดยพื้นฐานแล้ว ผู้เล่นจะทอยลูกเต๋าเพื่อเดินไปตามช่องบนกระดาน โดยมีเป้าหมายในการเก็บดาวและเหรียญทอง

และมีการตัดเข้าไปเพื่อเล่น “มินิเกม” ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของ Mario Party คือมินิเกมจำนวนมากที่ปรากฏขึ้นเมื่อผู้เล่นลงจอดในช่องพิเศษหรือเมื่อจบตา แต่ละมินิเกมจะมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันไป บางเกมเน้นทักษะ บางเกมเน้นโชค และบางเกมก็เน้นความป่วน ความหลากหลายของตัวละคร: ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครจากจักรวาล Super Mario ได้หลากหลาย เช่น Mario, Luigi, Princess Peach, Yoshi, Wario, Donkey Kong และตัวละครอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาในแต่ละภาค

เกม Mario Party ได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง: ซีรีส์ Mario Party มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเพิ่มกลไกใหม่ๆ ไอเท็ม โหมดการเล่น และตัวละครใหม่ๆ ในแต่ละภาคที่ออกมาบนเครื่องคอนโซลต่างๆ ของ Nintendo (เช่น Nintendo 64, GameCube, Wii, Wii U, Nintendo Switch และเครื่องเกมพกพาอย่าง Game Boy Advance, Nintendo DS, Nintendo 3DS)

โดยใน Mario Party ภาคแรก มีบางมินิเกมที่ให้ผู้เล่นหมุนอนาล็อกสติกอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่มือได้ ส่งผลให้ทาง Nintendo อเมริกาต้องส่งถุงมือให้กับผู้เล่นที่มีปัญหานี้ และทำให้ปู่นินโดนแฟนเกมฟ้องร้องจนต้องเสียเงินค่าปรับ โดยในช่วง Mario Party 9 และ 10 มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นหลัก โดยให้ผู้เล่นเดินทางไปพร้อมกันในรถคันเดียวซึ่งไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก

และหลังจากนั้นผู้สร้างได้กลับสู่รากฐาน: เกมอย่าง Super Mario Party (2018) และ Mario Party Superstars (2021) บน Nintendo Switch ได้นำรูปแบบการเล่นแบบเกมกระดานคลาสสิกกลับมา พร้อมกับรวมมินิเกมและกระดานยอดนิยมจากภาคเก่า ๆ ทำให้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ส่วนภาคล่าสุดอย่างเกม Super Mario Party Jamboree ที่จะวางจำหน่ายในปี 2024 เป็นภาคใหม่ล่าสุดที่สานต่อแนวคิดเกมปาร์ตี้แบบคลาสสิก และมีการอัปเกรดเพิ่มลูกเล่นและมินิเกมใหม่และวางขายบน Nintendo Switch 2

เกม Mario Party กลายเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมปาร์ตี้ที่ยาวนานและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์วิดีโอเกม ด้วยยอดขายรวมกว่า 76 ล้านชุดทั่วโลก และเชื่อว่ายังคงเป็นเกมที่หลายคนนึกถึงเมื่อต้องการเล่นเกมสนุก ๆ กับเพื่อนและครอบครัว แถมยังเหมาะมากที่จะเล่นในงานปาร์ตี้
Nintendo Switch 2 Now Available
📢 Tinzshop มีร้านบน LINE แล้ว! สอบถาม–สั่งซื้อได้ง่ายกว่าเดิม📲 กดปุ่มด้านล่างเพื่อแชทกับแอดมิน


เขียนโดย Dome